ฝึกทักษะ Softskills ด้วยความรู้ ทางจิตวิทยา วิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคนิค วิธีการต่างๆ คำคมพลังบวก คำคมคนดัง แคปชั่นเด็ดๆ แคปชั่นทำงาน เพื่อการพัฒนาตนเอง

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

คำคมชีวิต สร้างแรงบันดาลใจ

 

คำคมชีวิต

คำคมชีวิต จากหนังสือที่ชื่นชอบ รวบรวมไว้อ่าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับชีวิต

คำคมชีวิต

“เราแต่ละคนล้วนอยู่ในโลกส่วนตัวที่ตัวเอง เป็นคนแต่งขึ้นมาทั้งนั้น”

คำคมพลังบวก

“ ตราบเท่าที่ยังใช้ชีวิตยึดติดอยู่กับอดีต 
เราจะไม่มีวันก้าวไปข้างหน้าได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว ”
Share:

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้อย่างไร

สร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้อย่างไร

    
        ชีวิตในการทำงานนั้น นอกจากการมีทักษะทางวิชาชีพที่แข็งแกร่งแล้ว หลายคนมักมองข้ามปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น นั่นก็คือ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการถูก AI เข้ามาทำงานแทนที่ ดังนั้น การพัฒนา Soft Skill ด้านความฉลาดทางอารมณ์ จะเป็นอีกหนึ่งหนทาง ที่ช่วยให้คุณมีความสามารถในการบริหารจัดการด้านอารมณ์ความรู้สึกกับตัวเอง และคนอื่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

รู้หรือไม่ ปัจจุบันนี้ มีผู้นำจำนวนมาก กำลังเรียนรู้และพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้นำซึ่งเชื่อว่าความฉลาดทางอารมณ์คือประตูสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ - Forbes -

            มีข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้คือ เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่บนโลกนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจาก "ความสัมพันธ์" ลองจินตนาการดูว่า หากคุณอยู่คนเดียวบนโลกจริงๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องสื่อสารกับใคร ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องปรับตัวเพื่อใครเลย ใช่มั้ยครับ แต่เรื่องจริงคือ เราคือมนุษย์ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และเพื่่อที่เราจะเอาตัวรอดและอยู่ร่วมกับสังคมได้นั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องเรียนรู้ และพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์ เสริมความฉลาดให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง มีสติ และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น

วิธีสร้างความฉลาดทางอารมณ์

วิธีสร้างความฉลาดทางอารมณ์

  1. มีความตระหนักรู้ในตนเอง😁 😈😒: การรับรู้ถึงอารมณ์และการตอบสนองทางอารมณ์ของตนเอง จะสามารถพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ของคุณได้อย่างมาก เมื่อใดที่คุณรู้สึกกังวลหรือโกรธ และคุณสามารถรู้เท่าทันถึงอารมณ์ของตัวเองได้ จะช่วยให้คุณประมวลผลและ ควบคุมการสื่อสาร ก่อนที่จะแสดงความรู้สึกเหล่านั้นออกมาได้ดียิ่งขึ้น เพื่อปรับปรุงการรับรู้ของคุณ ให้คุณหมั่นสังเกตตัวเอง ทุกครั้งที่คุณรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรง ลองจดบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกนั้น เพื่อให้คุณเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์นั้นๆได้ และหาวิธีในการจัดการต่อไป
  2. มีความตระหนักรู้ในผู้อื่น 👪: การรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้คุณสามารถปรับพฤติกรรม และ การสื่อสารเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ คุณสามารถฝึกฝนการตระหนักรู้ในผู้อื่นด้วยการสังเกตอาการ หรือ สอบถามพวกเค้าว่ารู้สึกอย่างไร เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาของพวกเขาเป็นอันดับแรก 
  3. ฟังอย่างตั้งใจ 👂: มนุษย์เราใช้การสื่อสารทั้งทางวาจาและอวัจนภาษา ขณะที่เรารับฟัง ควรตั้งใจและสังเกตปฏิกิริยาของคู่สนทนา ที่เกิดขึ้นทั้งด้านบวกและด้านลบ เปิดโอกาสและใช้เวลาฟังผู้อื่น ลดการพูดแทรก ตัดบท จะแสดงถึงความเคารพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เพื่อแสดงว่าคุณตั้งใจฟัง ลองถามคำถาม พยักหน้าหรือพูดย้ำประเด็นสำคัญๆ เพื่อแสดงว่าคุณเข้าใจสิ่งเหล่านั้น คุณสามารถลองพยายามจินตนาการว่าตนเองอยู่ในตำแหน่งของผู้พูด เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรหากตกอยู่ในสถานการณ์ของพวกเขา เพิ่มความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น 
            การสร้างความฉลาดทางอารมณ์ หากเริ่มต้นด้วยความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจว่าผู้อื่นรู้สึกและคิดอย่างไร ซึ่งการเอาใจใส่ไม่ได้เป็นเพียงการทำดีต่อผู้คนรอบตัวคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นได้อีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง
Share:

วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แคปชั่น จากหนัง 2023

 

รวบรวมแคปชั่นเด็ดๆ จากหนังดังที่ชื่นชอบ ข้อคิดที่สร้างพลังใจ ด้วยคำคมพลังบวก


Credit ภาพจากหนังบัวผันฟันยับ - Netflix
"การเป็นคนห่วย แต่ยังไม่คนอยู่ข้างๆ ยังดีกว่าการเป็นคนเก่ง แต่ไม่มีใครสนใจ"
บัวผันฟันยับ , 2023

Credit ภาพจาก คลิปตัวอย่างหนัง Meg 2 The Trench - Warner Bros. Picture
"ทำงานที่เรารัก ก็เหมือนไม่ได้ทำงานเลยซักวัน"
Meg 2 The Trench (2023)

Share:

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แคปชั่นทำงาน

 


รวมแคปชั่นสำหรับให้กำลังใจคนวัยทำงาน


การทำได้น้อยกว่าที่คาดหวัง ย่อมดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย
- Atomic Habit -
Share:

แก้นิสัยติดการพนันได้อย่างไร


    
        ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การพนันออนไลน์ทั่วโลก ได้รับความนิยม และเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความพร้อมของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากหันมาใช้การพนันออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิง

            รู้หรือไม่?? มูลค่าตลาดการพนันออนไลน์ทั่วโลก คาดว่าจะสูงถึง 95.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 โดยประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอับดับ 1 ของตลาดพนันออนไลน์
- Statista  -

            ภายใต้ความสนุกและความตื่นเต้นของการพนันนี้ ผู้พนันบางรายเล่นบ่อย จนติดการพนันเป็นนิสัย อาจสูญเสียทรัพย์สินได้มหาศาลในระดับที่ไม่สามารถกู้คืนมาได้ ปัญหานี้ส่งผลต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้พนัน นำไปสู่ความรุนแรง และการก่ออาชญกรรม ต่อคนในครอบครัว หรือคนในสังคมได้ในท้ายที่สุด

             รู้หรือไม่?? การติดพนัน เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง คล้ายการติดสารเสพย์ติด ยิ่งเล่นบ่อยๆ ยิ่งติด ทำให้สมองจดจำมากขึ้น ส่งอำนาจเหนือสมองส่วนคิด ทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ
- World Health Organization  -

ขอบคุณภาพจาก Jawon Swaby - Pixel

เราเข้าสู่โลกของการพนันได้อย่างไร ?
            
            มีปัจจัยมากมายที่นำพาเราเข้าสู่โลกของการพนัน หนึ่งนั้นอาจเกิดขึ้นสภาพแวดล้อม หรือสังคมที่คุณอยู่ คนใกล้ตัวคุณ ญาติผู้ใหญ่ พ่อแม่ หรือ คนที่คุณเคารพ อาจมีนิสัยติดการพนันเป็นต้นแบบ นั่นหมายถึงคุณอาจถูกชักนำทางความคิด และมีแนวโน้มจะมีพฤติกรรมเลียนแบบได้ง่ายยิ่งขึ้น

            บางคนตีความว่าการซื้อล๊อตเตอรี่ หรือฉลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น คือการเสี่ยงดวง เสี่ยงโชคเพียงเล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมนี้ ก็ถือเป็นการพนันเช่นกัน  

            รู้หรือไม่?? เด็กอายุ 2-6 ปี สร้างบุคลิก จากการเลียนแบบพฤติกรรมของคนรอบข้างโดยไม่รู้ว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังขาดความสามารถในการแยกแยะ
- รพ.วิชัยยุทธ -

            เยาวชนที่รู้จักการพนันมาตั้งแต่เด็ก หากอยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่นิยมเล่นการพนัน อาจถูกแรงกดดันทางสังคม ชักนำเข้าสู่ตลาดของการพนันได้มีการศึกษาในประเทศไทยพบว่า มีคนไทยเกือบ 3 ล้านคนเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งผู้ชายชอบเล่นการพนันมากกว่าผู้หญิง โดยเป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-18 ปี ประมาณ 1.12 แสนคน และ 19.25 ปี ถึง 5.77 แสนคน

            อีกปัจจัยหนึ่งเกี่ยวเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ จากการศึกษาพบว่า มนุษย์มีความคาดหวังและความต้องการที่ต่างกัน บางคนอาจเล่นการพนันเพราะ อยากรวยเร็ว ชอบเอาชนะเกมส์ อยากเป็นที่หนึ่ง ชอบความท้าทาย อยากลอง หรือแค่มีเรื่องไว้คุยกับเพื่อน ในบางรายอาจเสพย์ติดความสุขที่ได้จากการพนัน ความพึงพอใจขณะที่ชนะ

             รู้หรือไม่?? สารโดปามีน (Dopamine) หรือ สารให้ความสุข จะถูกหลั่งออกมาขณะการเล่นพนัน ทำให้นักพนันเสพย์ติดอารมณ์ความรู้สึกนี้ ทำให้ติดการพนันได้
- สสส.  -

            ปัจจัยสุดท้าย คือเรื่องของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ อินเทอร์เน็ต เปิดโอกาสให้เกิดผู้พนันหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด การพนันแบบออนไลน์ ได้อย่างง่ายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ต่างจากการเดินเข้าคาสิโน ทลายข้อจำกัดของการเล่นการพนัน ขอเพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถเล่นที่ไหนก็ได้บนโลก การตรวจสอบอายุเล่นจริงยังเป็นไปได้ยาก ทำให้เยาวชนสามารถเข้าเล่นได้เพียงมีโทนศัพท์มือถือ    

ขอบคุณภาพจาก Pavel Danilyuk - Pixel
แก้นิสัยติดการพนันได้อย่างไร ?

            👍 ออกห่างจากอุปกรณ์และเพื่อนนักพนัน : ถ้าคุณยืนยันอย่างหนักแน่นว่าต้องการเลิกการติดพนันจริงๆ คุณต้องใช้ความพยายามในการปรับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ให้ห่างไกลจากสิ่งที่เย้ายวนคุณเข้าเล่นการพนัน ยกตัวอย่าง หากคุณมักจะเล่นพนันผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ คุณต้องหาวิธี ที่จะลดการมองเห็น หรือการสัมผัสโทรศัพท์นั้นต้องเป็นเรื่องยาก อย่างเช่น ลบ Application เว็บพนันทิ้งทุกครั้งหลังเล่น ไม่เอาโทรศัพท์เข้าห้องนอน ลองจินตนาการถึงการที่คุณมองเห็นขนมที่ว่างอยู่บนโต๊ะ แล้วคุณอดใจไม่ไหวที่จะกินมัน แต่หากไม่เห็นแล้ว จะช่วยลดโอกาสที่คุณนึกถึงได้ นอกจากนี้ลองถอยห่างออกจากกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักพนันตัวยง วิธีนี้เรียกว่าการตัดสัญญาณกระตุ้น เพื่อลดการถูกกระตุ้นให้เกิดการเล่นพนันอีก

            👍 หากิจกรรมอื่นที่น่าดึงดูดใจกว่า : คุณต้องเสริมความฉลาดทางอารมณ์ให้มากขึ้น ด้วยการรู้ระดับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ลองสำรวจตัวคุณดูว่านอกจากความสุขที่ได้จากเล่นการพนันแล้ว มีกิจกรรมไหนที่ทำให้คุณได้รับความสุขมากกว่า เพื่อตอบสนองภาวะร่างการต้องการสารโดปามีน (สารแห่งความสุข) บางคนอาจเลือกกิจกรรมตกปลา เพราะมีโอกาสได้ลุ้นว่าจะตกได้หรือไม่ได้ หรือ เลือกดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีจังหวะให้ได้ลุ้น ในบางคนอาจเข้าสู่การแข่งขันกีฬาอย่างเต็มรูปแบบเพื่อพิสูจน์ความเป็นหนึ่ง และ ฉลองชัยขนะ

            👍 สร้างอุปสรรคทางเทคโนโลยี : คุณต้องทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ทเป็นเรื่องยาก อย่างเช่นการถอดปลั๊กโมเดมออก หรือ เปลี่ยนรหัสเข้าอินเตอร์เน็ททุกวัน อุปสรรคทั้งหลายเหล่านี้จะประวิงเวลาให้คุณได้คิด และตระหนักถึงว่าทำไมมันยากจังกว่าจะได้เข้าอินเทอร์เน็ท จะช่วยให้คุณล้มเลิกและไม่อยากเล่นพนันในที่สุด เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์ชอบทำเรื่องง่าย คุณต้องพยายามทำการเข้าอินเทอร์เน็ทของคุณเป็นเรื่องยากเข้าไว้

            👍 ให้รางวัลตัวเอง : คุณอาจชื่นชมหรือให้รางวัลกับความสำเร็จของคุณ ในแต่ละวันที่คุณเลิกเล่นได้ อาจเป็นคำพูดเบาๆกับตัวเองว่าฉันทำได้แล้วนะ หรือ ทุกครั้งที่ทำได้ฉันจะนำเงินที่คิดว่าจะเล่นการพนันในวันนี้ไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้จริงๆ ซักที  

ข้อมูลอ้างอิง

Share:

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

5 ขั้นตอนแก้นิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง

            การผลัดวันประกันพรุ่ง หมายถึง การล่าช้า หรือ การเลื่อนสิ่งที่ต้องทำออกไปก่อน ซึ่งอาจเกิดจากอารมณ์ไม่พอใจหรือเบื่อหน่ายจากสิ่งที่ทำ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณห่างไกลออกจากเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ สร้างความเสียหายต่องาน และ ทำให้ตัวเองอยู่ในภาวะวิตกโดยไม่จำเป็น ซึ่งหากมีพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ อาจทำให้ลุกลามกลายเป็นนิสัยอย่างไม่รู้ตัว 

👍 5 ขั้นตอนแก้นิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง

  1. เริ่มต้นจากงานเล็กๆ : ให้คุณแบ่งงานใหญ่ออกเป็นชิ้นเล็กๆ และเลือกงานที่คุณทำได้ง่าย และเสร็จเร็วก่อน
  2. จัดทำแผน : Todo List ระบุเวลา และ วันที่อย่างชัดเจน เพื่อกระตุ้นความสนใจและโฟกัสได้ถูก ว่าคุณต้องทำอะไรเมื่อใด
  3. พยายามทำให้เสร็จ : สำหรับงานที่เห็นว่าใกล้จะเสร็จ ให้คุณพยายามทำให้เสร็จอย่าทิ้งงานไว้ เมื่อเสร็จแล้ว ลบออกจาก List งานของคุณ
  4.  ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม : คุณต้องให้เตรียมความพร้อมของสถานที่ สิ่งแวดล้อมรอบตัว ลดสิ่งเร้า สิ่งรบกวนที่จะดึงสมาธิคุณออกจากงาน 
  5. ให้รางวัลตัวเอง : เมื่อคุณทำงานทุกอย่างสำเร็จตามแผนใน Todo List ให้คุณเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆให้กับตนเอง เช่น เล่นเกมส์ได้ หรือ ทานอาหารที่อยากทาน เพื่อสร้างแรงจูงใจ ผลักดันให้เกิดเป็นนิสัย 

            ท้ายสุดนี้ หากต้องการสร้างให้เป็นนิสัย คุณต้องพยายามทำให้เกิดซ้ำๆ กระทั่งวิธีการเหล่านี้เข้ามาอยู่ในกิจวัตรของคุณ ลองออกแบบพฤติกรรมใหม่ของคุณให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมที่คุณชอบทำ หรือ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างเช่น

  • หลังจากที่ฉันเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉันจะสร้าง Todo List ก่อนเริ่มงานทุกวัน

Share:

ทำสมาธิให้เป็นนิสัยได้อย่างไร

            หนึ่งในวิธีรับมือกับการขจัดความเครียด คงหนีไม่พ้นการทำสมาธิ แม้จะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนกลับไม่สามารถ มีพฤติกรรมการทำสมาธิจนเป็นนิสัยได้

            ลองสังเกตุตัวคุณดูก็ได้ หากมีอาการ วอกแวกง่าย จดจ่ออะไรได้ไม่นาน หุนหันพลันแล่น นี่อาจเป็นสัญญาณของการเป็นคนมีนิสัยขาดสมาธิ ที่ส่งผลกระทบต่อการคิด การวางแผน การตัดสินใจ

            ซึ่งการสร้างสมาธินั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับ และนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ที่มีสมาธินั้นรู้สึกผ่อนคลาย และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้เป็นอย่างดี ด้วยการสมีสติอยู่กับปัจจุบัน

            อย่างไรก็ตาม หลายๆคน ยังคงไม่สามารถทำให้การสร้างสมาธิ ติดตัวจนเป็นนิสัยได้ เนื่องจากพฤติกรรมนี้ไม่ถูกบรรจุอยู่ในกิจวัตรประจำวันของใครหลายๆคน ซึ่งแตกต่างกับพฤติกกรรมการดื่มด่ำกาแฟในยามเช้าก่อนเริ่มงาน ที่สมองของคุณอาจไม่ต้องออกคำสั่ง แต่คุณก็ทำมันได้เองโดยอัตโนมัติ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการสร้างสมาธิของเรา จึงทำได้แค่ตอนคิดออก หรือ อยากทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ไม่กลายเป็นนิสัย

            หากคิดถึงการเริ่มต้นที่จะสร้างสมาธิ หลายคนอาจมีคำตอบในใจว่า “พรุ่งนี้ฉันจะนั่งสมาธิ” หรือ นับแต่นี้ไป “ฉันจะนั่งสมาธิเป็นประจำ” การกำหนดเป้าหมายในลักษณะนี้ เรียกว่าไม่มีความชัดเจนครับ จับต้องได้ยาก และมีโอกาสที่จะไม่เป็นนิสัย 

ดังนั้นวิธีสำหรับการสร้างสมาธิให้เป็นนิสัย ขอให้ทุกคนลองออกแบบพฤติกรรมตามนี้ครับ

👍 ลองกำหนดวิธีที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งเวลาและสถานที่

👍 เลือกพฤติกรรมที่สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยากเกินไป

👍 พฤติกรรมต้องอยู่ติดกับสิ่งที่เราทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว


ออกแบบพฤติกรรมแล้วจะได้ตามนี้ครับ

“ฉันจะนั่งสมาธิ 15 นาที หลังจากที่ฉันดื่มกาแฟตอนเช้าทุกวันที่โต๊ะทำงาน”

            เพื่อนๆลองทำแบบนี้ต่อเนื่องให้เป็นกิจวัตรประจำวัน รับรองได้ว่าจะมีการสร้างสมาธิที่ดีติดตัวเป็นนิสัย ไปตลอดอย่างแน่นอนครับ

Share: