ฝึกทักษะ Softskills ด้วยความรู้ ทางจิตวิทยา วิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคนิค วิธีการต่างๆ คำคมพลังบวก คำคมคนดัง แคปชั่นเด็ดๆ แคปชั่นทำงาน เพื่อการพัฒนาตนเอง

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พัฒนาตนเอง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พัฒนาตนเอง แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้อย่างไร

สร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้อย่างไร

    
        ชีวิตในการทำงานนั้น นอกจากการมีทักษะทางวิชาชีพที่แข็งแกร่งแล้ว หลายคนมักมองข้ามปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น นั่นก็คือ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการถูก AI เข้ามาทำงานแทนที่ ดังนั้น การพัฒนา Soft Skill ด้านความฉลาดทางอารมณ์ จะเป็นอีกหนึ่งหนทาง ที่ช่วยให้คุณมีความสามารถในการบริหารจัดการด้านอารมณ์ความรู้สึกกับตัวเอง และคนอื่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

รู้หรือไม่ ปัจจุบันนี้ มีผู้นำจำนวนมาก กำลังเรียนรู้และพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้นำซึ่งเชื่อว่าความฉลาดทางอารมณ์คือประตูสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ - Forbes -

            มีข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้คือ เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่บนโลกนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจาก "ความสัมพันธ์" ลองจินตนาการดูว่า หากคุณอยู่คนเดียวบนโลกจริงๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องสื่อสารกับใคร ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องปรับตัวเพื่อใครเลย ใช่มั้ยครับ แต่เรื่องจริงคือ เราคือมนุษย์ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และเพื่่อที่เราจะเอาตัวรอดและอยู่ร่วมกับสังคมได้นั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องเรียนรู้ และพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์ เสริมความฉลาดให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง มีสติ และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น

วิธีสร้างความฉลาดทางอารมณ์

วิธีสร้างความฉลาดทางอารมณ์

  1. มีความตระหนักรู้ในตนเอง😁 😈😒: การรับรู้ถึงอารมณ์และการตอบสนองทางอารมณ์ของตนเอง จะสามารถพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ของคุณได้อย่างมาก เมื่อใดที่คุณรู้สึกกังวลหรือโกรธ และคุณสามารถรู้เท่าทันถึงอารมณ์ของตัวเองได้ จะช่วยให้คุณประมวลผลและ ควบคุมการสื่อสาร ก่อนที่จะแสดงความรู้สึกเหล่านั้นออกมาได้ดียิ่งขึ้น เพื่อปรับปรุงการรับรู้ของคุณ ให้คุณหมั่นสังเกตตัวเอง ทุกครั้งที่คุณรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรง ลองจดบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกนั้น เพื่อให้คุณเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์นั้นๆได้ และหาวิธีในการจัดการต่อไป
  2. มีความตระหนักรู้ในผู้อื่น 👪: การรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้คุณสามารถปรับพฤติกรรม และ การสื่อสารเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ คุณสามารถฝึกฝนการตระหนักรู้ในผู้อื่นด้วยการสังเกตอาการ หรือ สอบถามพวกเค้าว่ารู้สึกอย่างไร เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาของพวกเขาเป็นอันดับแรก 
  3. ฟังอย่างตั้งใจ 👂: มนุษย์เราใช้การสื่อสารทั้งทางวาจาและอวัจนภาษา ขณะที่เรารับฟัง ควรตั้งใจและสังเกตปฏิกิริยาของคู่สนทนา ที่เกิดขึ้นทั้งด้านบวกและด้านลบ เปิดโอกาสและใช้เวลาฟังผู้อื่น ลดการพูดแทรก ตัดบท จะแสดงถึงความเคารพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เพื่อแสดงว่าคุณตั้งใจฟัง ลองถามคำถาม พยักหน้าหรือพูดย้ำประเด็นสำคัญๆ เพื่อแสดงว่าคุณเข้าใจสิ่งเหล่านั้น คุณสามารถลองพยายามจินตนาการว่าตนเองอยู่ในตำแหน่งของผู้พูด เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรหากตกอยู่ในสถานการณ์ของพวกเขา เพิ่มความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น 
            การสร้างความฉลาดทางอารมณ์ หากเริ่มต้นด้วยความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจว่าผู้อื่นรู้สึกและคิดอย่างไร ซึ่งการเอาใจใส่ไม่ได้เป็นเพียงการทำดีต่อผู้คนรอบตัวคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นได้อีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง
Share:

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แก้นิสัยติดการพนันได้อย่างไร


    
        ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การพนันออนไลน์ทั่วโลก ได้รับความนิยม และเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความพร้อมของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากหันมาใช้การพนันออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิง

            รู้หรือไม่?? มูลค่าตลาดการพนันออนไลน์ทั่วโลก คาดว่าจะสูงถึง 95.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 โดยประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอับดับ 1 ของตลาดพนันออนไลน์
- Statista  -

            ภายใต้ความสนุกและความตื่นเต้นของการพนันนี้ ผู้พนันบางรายเล่นบ่อย จนติดการพนันเป็นนิสัย อาจสูญเสียทรัพย์สินได้มหาศาลในระดับที่ไม่สามารถกู้คืนมาได้ ปัญหานี้ส่งผลต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้พนัน นำไปสู่ความรุนแรง และการก่ออาชญกรรม ต่อคนในครอบครัว หรือคนในสังคมได้ในท้ายที่สุด

             รู้หรือไม่?? การติดพนัน เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง คล้ายการติดสารเสพย์ติด ยิ่งเล่นบ่อยๆ ยิ่งติด ทำให้สมองจดจำมากขึ้น ส่งอำนาจเหนือสมองส่วนคิด ทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ
- World Health Organization  -

ขอบคุณภาพจาก Jawon Swaby - Pixel

เราเข้าสู่โลกของการพนันได้อย่างไร ?
            
            มีปัจจัยมากมายที่นำพาเราเข้าสู่โลกของการพนัน หนึ่งนั้นอาจเกิดขึ้นสภาพแวดล้อม หรือสังคมที่คุณอยู่ คนใกล้ตัวคุณ ญาติผู้ใหญ่ พ่อแม่ หรือ คนที่คุณเคารพ อาจมีนิสัยติดการพนันเป็นต้นแบบ นั่นหมายถึงคุณอาจถูกชักนำทางความคิด และมีแนวโน้มจะมีพฤติกรรมเลียนแบบได้ง่ายยิ่งขึ้น

            บางคนตีความว่าการซื้อล๊อตเตอรี่ หรือฉลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น คือการเสี่ยงดวง เสี่ยงโชคเพียงเล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมนี้ ก็ถือเป็นการพนันเช่นกัน  

            รู้หรือไม่?? เด็กอายุ 2-6 ปี สร้างบุคลิก จากการเลียนแบบพฤติกรรมของคนรอบข้างโดยไม่รู้ว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังขาดความสามารถในการแยกแยะ
- รพ.วิชัยยุทธ -

            เยาวชนที่รู้จักการพนันมาตั้งแต่เด็ก หากอยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่นิยมเล่นการพนัน อาจถูกแรงกดดันทางสังคม ชักนำเข้าสู่ตลาดของการพนันได้มีการศึกษาในประเทศไทยพบว่า มีคนไทยเกือบ 3 ล้านคนเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งผู้ชายชอบเล่นการพนันมากกว่าผู้หญิง โดยเป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-18 ปี ประมาณ 1.12 แสนคน และ 19.25 ปี ถึง 5.77 แสนคน

            อีกปัจจัยหนึ่งเกี่ยวเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ จากการศึกษาพบว่า มนุษย์มีความคาดหวังและความต้องการที่ต่างกัน บางคนอาจเล่นการพนันเพราะ อยากรวยเร็ว ชอบเอาชนะเกมส์ อยากเป็นที่หนึ่ง ชอบความท้าทาย อยากลอง หรือแค่มีเรื่องไว้คุยกับเพื่อน ในบางรายอาจเสพย์ติดความสุขที่ได้จากการพนัน ความพึงพอใจขณะที่ชนะ

             รู้หรือไม่?? สารโดปามีน (Dopamine) หรือ สารให้ความสุข จะถูกหลั่งออกมาขณะการเล่นพนัน ทำให้นักพนันเสพย์ติดอารมณ์ความรู้สึกนี้ ทำให้ติดการพนันได้
- สสส.  -

            ปัจจัยสุดท้าย คือเรื่องของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ อินเทอร์เน็ต เปิดโอกาสให้เกิดผู้พนันหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด การพนันแบบออนไลน์ ได้อย่างง่ายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ต่างจากการเดินเข้าคาสิโน ทลายข้อจำกัดของการเล่นการพนัน ขอเพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถเล่นที่ไหนก็ได้บนโลก การตรวจสอบอายุเล่นจริงยังเป็นไปได้ยาก ทำให้เยาวชนสามารถเข้าเล่นได้เพียงมีโทนศัพท์มือถือ    

ขอบคุณภาพจาก Pavel Danilyuk - Pixel
แก้นิสัยติดการพนันได้อย่างไร ?

            👍 ออกห่างจากอุปกรณ์และเพื่อนนักพนัน : ถ้าคุณยืนยันอย่างหนักแน่นว่าต้องการเลิกการติดพนันจริงๆ คุณต้องใช้ความพยายามในการปรับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ให้ห่างไกลจากสิ่งที่เย้ายวนคุณเข้าเล่นการพนัน ยกตัวอย่าง หากคุณมักจะเล่นพนันผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ คุณต้องหาวิธี ที่จะลดการมองเห็น หรือการสัมผัสโทรศัพท์นั้นต้องเป็นเรื่องยาก อย่างเช่น ลบ Application เว็บพนันทิ้งทุกครั้งหลังเล่น ไม่เอาโทรศัพท์เข้าห้องนอน ลองจินตนาการถึงการที่คุณมองเห็นขนมที่ว่างอยู่บนโต๊ะ แล้วคุณอดใจไม่ไหวที่จะกินมัน แต่หากไม่เห็นแล้ว จะช่วยลดโอกาสที่คุณนึกถึงได้ นอกจากนี้ลองถอยห่างออกจากกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักพนันตัวยง วิธีนี้เรียกว่าการตัดสัญญาณกระตุ้น เพื่อลดการถูกกระตุ้นให้เกิดการเล่นพนันอีก

            👍 หากิจกรรมอื่นที่น่าดึงดูดใจกว่า : คุณต้องเสริมความฉลาดทางอารมณ์ให้มากขึ้น ด้วยการรู้ระดับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ลองสำรวจตัวคุณดูว่านอกจากความสุขที่ได้จากเล่นการพนันแล้ว มีกิจกรรมไหนที่ทำให้คุณได้รับความสุขมากกว่า เพื่อตอบสนองภาวะร่างการต้องการสารโดปามีน (สารแห่งความสุข) บางคนอาจเลือกกิจกรรมตกปลา เพราะมีโอกาสได้ลุ้นว่าจะตกได้หรือไม่ได้ หรือ เลือกดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีจังหวะให้ได้ลุ้น ในบางคนอาจเข้าสู่การแข่งขันกีฬาอย่างเต็มรูปแบบเพื่อพิสูจน์ความเป็นหนึ่ง และ ฉลองชัยขนะ

            👍 สร้างอุปสรรคทางเทคโนโลยี : คุณต้องทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ทเป็นเรื่องยาก อย่างเช่นการถอดปลั๊กโมเดมออก หรือ เปลี่ยนรหัสเข้าอินเตอร์เน็ททุกวัน อุปสรรคทั้งหลายเหล่านี้จะประวิงเวลาให้คุณได้คิด และตระหนักถึงว่าทำไมมันยากจังกว่าจะได้เข้าอินเทอร์เน็ท จะช่วยให้คุณล้มเลิกและไม่อยากเล่นพนันในที่สุด เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์ชอบทำเรื่องง่าย คุณต้องพยายามทำการเข้าอินเทอร์เน็ทของคุณเป็นเรื่องยากเข้าไว้

            👍 ให้รางวัลตัวเอง : คุณอาจชื่นชมหรือให้รางวัลกับความสำเร็จของคุณ ในแต่ละวันที่คุณเลิกเล่นได้ อาจเป็นคำพูดเบาๆกับตัวเองว่าฉันทำได้แล้วนะ หรือ ทุกครั้งที่ทำได้ฉันจะนำเงินที่คิดว่าจะเล่นการพนันในวันนี้ไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้จริงๆ ซักที  

ข้อมูลอ้างอิง

Share:

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

5 ขั้นตอนแก้นิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง

            การผลัดวันประกันพรุ่ง หมายถึง การล่าช้า หรือ การเลื่อนสิ่งที่ต้องทำออกไปก่อน ซึ่งอาจเกิดจากอารมณ์ไม่พอใจหรือเบื่อหน่ายจากสิ่งที่ทำ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณห่างไกลออกจากเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ สร้างความเสียหายต่องาน และ ทำให้ตัวเองอยู่ในภาวะวิตกโดยไม่จำเป็น ซึ่งหากมีพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ อาจทำให้ลุกลามกลายเป็นนิสัยอย่างไม่รู้ตัว 

👍 5 ขั้นตอนแก้นิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง

  1. เริ่มต้นจากงานเล็กๆ : ให้คุณแบ่งงานใหญ่ออกเป็นชิ้นเล็กๆ และเลือกงานที่คุณทำได้ง่าย และเสร็จเร็วก่อน
  2. จัดทำแผน : Todo List ระบุเวลา และ วันที่อย่างชัดเจน เพื่อกระตุ้นความสนใจและโฟกัสได้ถูก ว่าคุณต้องทำอะไรเมื่อใด
  3. พยายามทำให้เสร็จ : สำหรับงานที่เห็นว่าใกล้จะเสร็จ ให้คุณพยายามทำให้เสร็จอย่าทิ้งงานไว้ เมื่อเสร็จแล้ว ลบออกจาก List งานของคุณ
  4.  ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม : คุณต้องให้เตรียมความพร้อมของสถานที่ สิ่งแวดล้อมรอบตัว ลดสิ่งเร้า สิ่งรบกวนที่จะดึงสมาธิคุณออกจากงาน 
  5. ให้รางวัลตัวเอง : เมื่อคุณทำงานทุกอย่างสำเร็จตามแผนใน Todo List ให้คุณเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆให้กับตนเอง เช่น เล่นเกมส์ได้ หรือ ทานอาหารที่อยากทาน เพื่อสร้างแรงจูงใจ ผลักดันให้เกิดเป็นนิสัย 

            ท้ายสุดนี้ หากต้องการสร้างให้เป็นนิสัย คุณต้องพยายามทำให้เกิดซ้ำๆ กระทั่งวิธีการเหล่านี้เข้ามาอยู่ในกิจวัตรของคุณ ลองออกแบบพฤติกรรมใหม่ของคุณให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมที่คุณชอบทำ หรือ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างเช่น

  • หลังจากที่ฉันเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉันจะสร้าง Todo List ก่อนเริ่มงานทุกวัน

Share:

ทำสมาธิให้เป็นนิสัยได้อย่างไร

            หนึ่งในวิธีรับมือกับการขจัดความเครียด คงหนีไม่พ้นการทำสมาธิ แม้จะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนกลับไม่สามารถ มีพฤติกรรมการทำสมาธิจนเป็นนิสัยได้

            ลองสังเกตุตัวคุณดูก็ได้ หากมีอาการ วอกแวกง่าย จดจ่ออะไรได้ไม่นาน หุนหันพลันแล่น นี่อาจเป็นสัญญาณของการเป็นคนมีนิสัยขาดสมาธิ ที่ส่งผลกระทบต่อการคิด การวางแผน การตัดสินใจ

            ซึ่งการสร้างสมาธินั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับ และนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ที่มีสมาธินั้นรู้สึกผ่อนคลาย และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้เป็นอย่างดี ด้วยการสมีสติอยู่กับปัจจุบัน

            อย่างไรก็ตาม หลายๆคน ยังคงไม่สามารถทำให้การสร้างสมาธิ ติดตัวจนเป็นนิสัยได้ เนื่องจากพฤติกรรมนี้ไม่ถูกบรรจุอยู่ในกิจวัตรประจำวันของใครหลายๆคน ซึ่งแตกต่างกับพฤติกกรรมการดื่มด่ำกาแฟในยามเช้าก่อนเริ่มงาน ที่สมองของคุณอาจไม่ต้องออกคำสั่ง แต่คุณก็ทำมันได้เองโดยอัตโนมัติ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการสร้างสมาธิของเรา จึงทำได้แค่ตอนคิดออก หรือ อยากทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ไม่กลายเป็นนิสัย

            หากคิดถึงการเริ่มต้นที่จะสร้างสมาธิ หลายคนอาจมีคำตอบในใจว่า “พรุ่งนี้ฉันจะนั่งสมาธิ” หรือ นับแต่นี้ไป “ฉันจะนั่งสมาธิเป็นประจำ” การกำหนดเป้าหมายในลักษณะนี้ เรียกว่าไม่มีความชัดเจนครับ จับต้องได้ยาก และมีโอกาสที่จะไม่เป็นนิสัย 

ดังนั้นวิธีสำหรับการสร้างสมาธิให้เป็นนิสัย ขอให้ทุกคนลองออกแบบพฤติกรรมตามนี้ครับ

👍 ลองกำหนดวิธีที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งเวลาและสถานที่

👍 เลือกพฤติกรรมที่สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยากเกินไป

👍 พฤติกรรมต้องอยู่ติดกับสิ่งที่เราทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว


ออกแบบพฤติกรรมแล้วจะได้ตามนี้ครับ

“ฉันจะนั่งสมาธิ 15 นาที หลังจากที่ฉันดื่มกาแฟตอนเช้าทุกวันที่โต๊ะทำงาน”

            เพื่อนๆลองทำแบบนี้ต่อเนื่องให้เป็นกิจวัตรประจำวัน รับรองได้ว่าจะมีการสร้างสมาธิที่ดีติดตัวเป็นนิสัย ไปตลอดอย่างแน่นอนครับ

Share:

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เรียนรู้เร็วทำได้อย่างไร

 


    การเรียนรู้เร็ว คือ ทักษะที่ทำให้เราใช้ความสามารถของสมอง ในการจำ คิด และ ถ่ายทอด ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

    ปัจจุบันนี้การแข่งขันในตลาดแรงงานสูง เพื่อให้เรามีทักษะที่โดดเด่น ผมมองว่าการพัฒนาทักษะในการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จะเป็นส่วนสำคัญของพื้นฐานในการทำงาน ที่เราควรพัฒนา

    ผมได้ทำการศึกษาข้อมูลที่หลากหลายจากตำราและบนเว็บไซต์ เพื่อลดระยะเวลาให้ผู้ที่สนใจพัฒนาด้านการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว สามารถอ่านและเข้าใจโดยง่าย จึงได้คัดกรองเทคนิค 10 วิธีการที่ได้รับความนิยม นำมาสรุปประเด็นสำคัญและเสนอในรูปแบบของ Mind Map นี้

3 วิธีที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ นั้นคือ 1.การจำภาพแทนอักษร 2. การสอน 3.การพักผ่อน

1 ในวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับผม คือการนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพียง 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานเข้ากะกลางคืน การพักผ่อนที่ไม่เป็นเวลา ทำให้ผมรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีสมาธิ ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ หลังจากเปลี่ยนอาชีพ มาอยู่ในสายฝึกอบรม จำเป็นต้องพัฒนาด้านการเรียนรู้ จึงพยายามนอนให้เป็นเวลามากขึ้น ซึ่งทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนใดๆ แค่มีวินัยเท่านั้น ผลลัพธ์น่าทึ่งมากๆ ผมรู้สึกมีพลังกาย สมาธิมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เอื้อต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

การสอนคนอื่นนั้น ผมมองว่าเป็นวิธีที่ทำให้เรียนรู้ได้รวดเร็วที่สุด เพราะนั่นหมายถึงเราต้องมีความสามารถในการสรุป เรียบเรียง และ ถ่ายทอดเพื่อให้คนอื่นเข้าใจ และเพื่อการนั้น คุณจะต้องพัฒนาและทำการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเตรียมการสอน

เริ่มจากง่ายๆ ทำสิ่งที่อยาก พัฒนาขึ้นวันละ 1% เท่านี้ก็ดีกว่าเมื่อวานแล้ว...

Reference

wealthmeup.com

learn.co.th

amarinbooks.com

medium.com

edugentutor.com

tuxsablog.skilllane.com


Share:

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

4 Mindset รับมือช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทำอย่างไร คิดอย่างไร

Mindset เศรษฐกิจ

        เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย เราควรทำอย่างไร คิดอย่างไร ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง ทำให้เกิดภาวะว่างงาน มีการเลิกจ้าง ซึ่งเป็น ปัญหาที่เกิดอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ระหว่างที่รอการฟื้นทูทางเศรษฐกิจนี้ Soft Skills 365 แนะนำให้มี Mindset เพื่อปรับทัศนคติรับมือกับวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

🤩 Mindset 1 ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์

    จัดการเวลาของคุณเพื่อการพัฒนาตนเองด้านต่างๆในชีวิต

  • วางแผนสุขภาพ
  • ใช้ความคิดสร้างสรรค์
    • ทำโครงการต่างๆ
    • เรียนรู้สิ่งใหม่
  • อ่านหนังสือ
  • เรียนออนไลน์
  • พัฒนาตนจุดแข็งของตนเอง
  • ทำสิ่งที่ตั้งใจแต่ไม่เคยมีเวลา

🤩 Mindset 2 ก้าวออกจาก Comfort Zone

  • รับความเสี่ยง เปิดใจลองทำสิ่งใหม่ และสำรวจโอกาสใหม่ๆ หรือ เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง
  • คิดบวก และอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ คำแนะนำ และการให้คำปรึกษาจากผู้อื่น

🤩 Mindset 3 Focus เฉพาะสิ่งที่ควบคุมได้

  • มุ่งเน้นสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้และปล่อยสิ่งที่คุณทำไม่ได้
    • การพัฒนาตนเอง
    • ทัศนคติ
  • เลิกกลัวความล้มเหลว ทำความคุ้นเคยกับการไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้และเติบโต
  • เรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อการพัฒนา

🤩 Mindset 4 ลงทุนกับตัวเอง

·    ลงทุนด้านเงินและเวลา เพื่อการพัฒนาตนเอง เตรียมพร้อมรับเศรษฐกิจฟื้นตัว

Soft Skills 365 หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ใช้ช่วงเวลาหยุดนี้ ให้เกิดประโยชน์ ช่วยเสริมให้เราเติบโต และเป็นการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในอนาคต 

Share:

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565

รู้ความหมายของ Soft Skills ทักษะสำคัญของโลกยุคใหม่


ความหมายของ Soft Skills คืออะไร

Soft Skills คืออะไร?

Soft Skills (ซอฟท์สกิล) คือ ความสามารถของแต่ละบุคคลด้านการใช้คุณสมบัติด้าน อารมณ์ ความคิด แสดงพฤติกรรม ตามบุคลิกภาพและอุปนิสัยของของตนเอง เพื่อทำความเข้าใจในตนเองในเชิงลึก มุ่งสู่การมีมนุษย์สัมพันธ์ทางสังคม สามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดี โดยทักษะอาจมีติดตัวมาแต่กำเนิดหรือสามารถเรียนรู้พัฒนาในภายหลังได้

Soft Skills เหมาะกับใคร?

เหมาะกับ ทุกคนที่ต้องการพัฒนาทักษะทางสังคม ที่มุ่งเน้นการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทั้งชีวิตการทำงาน และ ชีวิตส่วนตัว 

Soft Skills ทำไมจึงสำคัญในโลกยุคใหม่

Digital Disruption จะเข้ามีบทบาทในการแย่งหลายๆตำแหน่งงานไป จากบทสัมภาษณ์ของ ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า "มนุษย์จำเป็นต้องปรับตัว เพิ่มทักษะการทำงาน ให้สอดคล้องกับยุคปัญญาประดิษฐ์" เพราะการเข้ามาของ AI จะส่งผลให้ทักษะบางอาชีพค่อยๆ ปิดตัวลง 

ทักษะ Soft Skills จะเป็นตัวที่ช่วยให้เรามีความสามารถที่ AI ยังไม่สามารถเข้ามาแย่งเราไปได้ Soft Skills 365 จะขอเป็นอีก 1 ทางที่จะช่วยพัฒนาความรู้ด้าน Soft Skills ให้กับทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง

Reference

https://adecco.co.th/th/knowledge-center/detail/soft-skill-vs-hard-skill

https://www.palagrit.com/what-is-soft-skills/

https://techsauce.co/connext/life-hacks/what-is-soft-skills-and-how-to-identify-your-soft-skills

https://www.urbinner.com/post/what-are-soft-skills

http://lyksoomu.com/BJ91

http://lyksoomu.com/BKOy


Share: